ร่วมพูดคุยแบบใกล้ชิดกับ เสกซ่า และใจร้าว พร้อมมุมมองทางด้านอีสปอร์ตที่คุณไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน

สวัสดีครับชาว Thailand eSport Club วันนี้ผมมีอีกเรื่องราวที่น่าตื่นเต้น และน่าสนใจมากๆ มานำเสนอให้พวกคุณได้ดูกันครับ เพราะว่าผมได้มีโอกาสร่วมพูดคุยกับ SakeZa (เสกซ่า) นักพากย์เกมมือฉมัง และ Jai Raw (ใจร้าว) เกมแคสเตอร์ขวัญใจเด็กแนว อย่างใกล้ชิด ซึ่งทุกคนอาจเห็นบทบาทของทั้งสองคนในการพากย์เกม และการแคสเกมอยู่แล้วหละ แต่วันนี้ผมจะพาคุณไปร่วมฟังข้อคิดเห็นทางด้านอีสปอร์ตที่รับรองว่าคุณต้องไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อนแน่ๆ ถ้าพร้อมแล้ว ไปกันเลยครับ

Q: แนะนำตัวเองครับ

SakeZa: สวัสดีครับ เสกซ่า ครับ ชาวแคสเตอร์ ROV ครับ
Jai Raw: สวัสดีครับ ใจร้าวครับ ชาวแคสเตอร์ ROV เหมือนกันครับ

Q: พูดถึงจุดเริ่มต้นของการมาเป็นแคสเตอร์ครับ

SakeZa: จุดเริ่มต้นของผมเหรอครับ มาจากการประกวดเฟ้นหาแคสเตอร์หน้าใหม่กับ ROV ของทาง Garena Official ครับ
Jai Raw: สำหรับผมมีเพื่อนชวนมา ก็เลยเริ่มจากการทำเบื้องหลังก่อน สุดท้ายก็ลองฝึกฝนดู แล้วก็เลยขึ้นมาทำในด้านของการพากษ์ครับ

Q: ก่อนจะมาเป็นแคสเตอร์นี่ทำอะไรกันมาก่อน

SakeZa: คือถ้าเป็นผม ผมเป็นนักจัดรายการวิทยุ ทำพิธีกร MC อีเวนท์ เกี่ยวกับสายงานพูดมาก่อน
Jai Raw: สำหรับผมก็สตรีมเล่นเกมครับ เล่น ROV อยู่แล้ว ก็เลยเห็นว่าเป็นโอกาสใหม่ที่จะได้ทำอะไรสนุกๆ ก็เลยมาลองทำด้านนี้ดูครับ

• 

• 

Q: ทำไมถึงเลือกมาแคสเกม ROV

SakaZa: โดยส่วนตัวถ้าย้อนไปช่วงอายุ 15 – 20 ต้นๆ ผมจะเล่นเกม MOBA สมัยก่อนบน PC และก็ค่อนข้างชอบ จนชีวิตมันผ่านมาถึงช่วงวัยทำงาน วันนี้มันกลับมาให้เล่นได้บนโทรศัพท์มือถือ ก็เลยลองกลับมาเล่นเกมในแบบที่เราชอบนั่นก็คือ ROV นั่นเองครับ ก็เลยได้กลับมาเล่นเกมอีกครั้ง ได้คลุกคลีกับมัน ได้โอกาสมาพากษ์เกมนี้ครับ
Jai Raw: สำหรับผม เพื่อนเค้าเล่นกันหมด ถ้าผมไม่เล่น ก็ไม่มีใครเล่นกับผม ฮ่าๆ ผมก็เลยต้องมาเล่นด้วย แล้วเหมือนที่พี่เสกซ่าบอกว่าเมื่อก่อน เราก็เล่นเกม MOBA บน PC แต่ตอนนี้ MOBA มันมาให้เล่นบนมือถือ ซึ่งมันก็เข้าถึงง่ายขึ้น ก็เลยคิดว่าเกมนี้แหละ ที่น่าจะตอบโจทย์เรากับเพื่อนๆ ได้ดีที่สุด
SakeZa: ผมว่ามันเป็นประเด็นหลักเลย ในเกมที่ถึงได้ง่าย เล่นได้บนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งการเล่น MOBA มันสามารถเล่นกับเพื่อนได้ 5 คน มันคือสิ่งสำคัญที่ทำให้เราได้กลับมาเล่นเกมร่วมกับเพื่อน และมีการสื่อสาร แน่นอนครับมันอาจจะไม่ได้เจอหน้ากันเหมือนเมื่อก่อน แต่เราก็ใช้ตัวเกมเป็นการคุยกันในทุกๆ วันครับ

Q: ในเกม ROV ชื่นชอบ หรือเล่นฮีโร่ตัวไหนมากที่สุด และไม่อยากเจอฮีโร่ตัวไหนมากที่สุด

SakaZa: ถ้าเอาตอนนี้เลยนะ ถ้าชอบเล่นผมชอบเล่น คิวเลน เพราะว่า มันส์ สะใจ ได้ไปไล่ฆ่าเค้า เวลาที่สกิลรีเซ็ตแล้วไหลเนี่ย แล้วตัวมันค่อนข้างโกง ส่วนตัวที่ไม่อยากเจอ ก็คิวเลนนี่แหละครับ ฮ่าๆ คือถ้าในสภาพเดียวกันก็แบบ เห้อ… รู้สึกถึงจิตใจคนอื่นเวลาโดนคิวเลนฆ่าเลยครับ
Jai Raw: ถ้าเป็นผมขอบเล่น คริคแนค ผมเป็นสายชอบฆ่า ก็คือไม่ค่อยสนใจ จะฆ่าลูกเดียว ปกติจะเข้าหาก่อน
SakeZa: ฆ่าเค้า หรือถูกเค้าฆ่า
Jai Raw: ฆ่าเค้าก่อน ฮ่าๆ แล้วตัวเราตายทีหลังก็ช่างมัน อย่างน้อยก็มีคนตายคนนึงแล้วครับ ส่วนตัวที่ไม่อยากเจอตอนนี้ก็คงเป็น เซฟีร่า ครับ เพราะกระโดดเข้าไป เราตายเอง เค้าไม่ตายก็เลยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ครับ

Q: คิดยังไงกับอีสปอร์ตบ้านเรา ในช่วงเวลานี้ครับ

SakeZa: อีสปอร์ตในบ้านเราตอนี้เกิดการยอมรับ สนับสนุนมากขึ้น หลายคนยังตั้งคำถามว่า เอ้ย อีสปอร์ตมันคืออะไร แต่ทุกวันนี้มันถูกนำเสนอออกมาในสื่อ ในสังคม ทำให้คนได้ยอมรับ และเข้าใจ ตอนนี้ผมมองว่ากำลังเติบโตไปได้ดีมากๆ ครับ จากการที่มีชาวต่างชาติมาเล่นในบ้านเรา ซึ่งในเร็วๆ นี้คุณจะได้เห็นกัน รวมไปถึงการจับตามองจากต่างประเทศ เพราะเรามีผู้เล่นในประเทศไทยที่มีความสามารถ และสร้างชื่อเสียง ผมเชื่อว่าจริงๆ ชาวต่างชาติอยากซื้อผู้เล่นในบ้านเราไปร่วมทีมด้วยซ้ำ อย่างเกมอื่นก็มีให้เห็นกันแล้ว และคิดว่าในอนาคตอันใกล้นี้ กีฬาที่เป็นอีสปอร์ตจะก้าวไปอีกหลายๆ เกมด้วยซ้ำ
Jai Raw: ก็เติบโตขึ้นมาในระดับที่พูดได้เต็มปากว่าโตแล้ว อาจจะยังไม่สุด ก็ยังต้องพัฒนาต่อไป สำหรับก้าวแรกที่มีต่างชาติเข้ามาก็ถือวาเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เห็นว่าเริ่มไปได้แล้ว แต่ก็ยังห่างจากประเทศอื่นๆ อยู่ ต่างชาติเค้าเริ่มกันมานานแล้ว เราเพิ่งเริ่มได้ปี สองปีเอง ผมว่าก็ต้องใช้เวลาอีกหน่อย

Q: ย้อนไปในช่วงที่กระแสของอีสปอร์ตที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ที่ไม่ดี มีความคิดเห็นยังไงบ้าง

SakaZa: เป็นคำถามที่ถูกถามบ่อยมากครับ คือผมมองว่ามันจะเป็นเกม หรือกีฬา ขึ้นอยู่กับแค่เราทำความเข้าใจกับมัน คือทุกอย่างมันคือเล่นเป็นทีม มันมีกฎกติกา มีเรื่องของการจัดระเบียบวินัยในการฝึกซ้อม ไม่ต่างกับกีฬาสากลอื่นๆ เลยครับ แค่เพียงมันเปลี่ยนจากการเอาตัวคุณลงสนามกลางแจ้ง เปลี่ยนมาเป็นเล่นในบ้าน แล้วใช้เทคโนโลยีในการช่วย โอเคคุณอาจจะไม่ต้องไปซ้อมกลางแดดทุกวัน คุณเปลี่ยนมาซ้อมในบ้าน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณมองครับ มองว่ามันเป็นกีฬา ต้องใช้ความสามัคคี มีการสื่อสาร มีน้ำใจนักกีฬา มีวินัยในการฝึกซ้อมเพื่อจะไปเป็นนักกีฬามืออาชีพ ที่สำคัญที่สุดมันสามารถประกอบเป็นอาชีพได้ สำหรับทุกๆ คนที่อยากเป็นนักกีฬาในด้านอิเล็คทรอนิกส์ที่ไม่ว่าจะเป็นบน PC หรือบนมือถือที่เป็นอีสปอร์ตครับ
Jai Raw: ขึ้นอยู่กับมุมมองแต่ละคนที่มองมากกว่าครับ อย่างที่หลายๆ คนมองว่าเด็กติดเกม จะใช้คำว่าอีสปอร์ตมาเป็นข้ออ้าง ซึ่งมันขึ้นอยู่กับการกระทำ หลายๆ คนพูดว่าอีสปอร์ตไม่ใช่กีฬาเพราะว่าสิ่งที่เค้าเห็นมันเป็นแบบนั้นจริงๆ เด็กบางคนยังแบ่งเวลาไม่ได้ นักกีฬาต้องมีความรับผิดชอบรู้ว่าเวลานี้ต้องซ้อม เวลานี้พักผ่อน พอเด็กอ้างว่าอยากเป็นนักกีฬาอีสปอร์ต แล้วก็มาเล่นเกมทั้งวัน สายตาที่คนมองเลยมองว่า นี่มันก็แค่เล่นเกม ผมเลยมองว่าจริงๆ ทุกคนต้องมาร่วมมือให้ทุกคนเห็นว่า อีสปอร์ต คือกีฬา

Q: เด็กเล่นเกม กับนักกีฬาอีสปอร์ต ต่างกันอย่างไร

SakeZa: เด็กเล่นเกม คืออยากเล่นตอนไหนก็เล่นครับ เวลาเรียนก็เล่น รอครู 5 นาทีก็เล่น แบบนี้ผมถือว่าเป็นเด็กเล่นเกม ซึ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งที่เป็น Toxic ที่เราเห็นกันในเกม ถ้าเป็นนักกีฬา เค้าจะมีระบบ ระเบียบว่า เวลาไหน ต้องทำอะไร บางคนยังเรียนหนังสืออยู่ เค้าก็จะแบ่งเวลามาซ้อม สิ่งที่ตัดสินคือความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และการแบ่งเวลา ถ้าทำได้ผมมองว่าเป็นนักกีฬาได้ แต่ถ้าอาชีพหลักเป็นคนทำงานก็ไม่ใช่เล่นตอนทำงาน เลิกงานแล้วค่อยเล่น แบ่งเวลาให้ถูกครับ วินัยเป็นสิ่งสำคัญมากๆ สำหรับนักกีฬาครับ

Q: คิดว่าในอนาคต อีสปอร์ตบ้านเราจะไปในทิศทางไหน

SakwZa: ถ้าในเชิงการสนับสนุนผมมองว่า ก็ค่อยไปในทิศทางที่ดีขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็มีอีกหลายแง่มุมที่อยากจะฝาก คือการสนับสนุนในเรื่องดีๆ ไม่ใช่ว่า Toxic เอย พิมพ์แชทเอย หรือแม้กระทั่งทีมไทยที่เป็นตัวแทนประเทศไปแข่งขัน ก็ยังมีอีกหลายๆ คนที่ยังพิมพ์ว่าประเทศเราเอง อาจเพราะการรู้เท่าไม่ถึงการ อะไรแบบนี้ไม่ควรสนับสนุน ผมว่ามันจะไปต่อได้ หรือไม่ได้ขึ้นอยู่กับตรงนี้แหละ คนอาจจะมองว่าเป็นจุดเล็กๆ แต่การร่วมมือสนับสนุน ให้กำลังใจ ผมว่าอีสปอร์ตไทยจะไปได้เร็วกว่า
Jai Raw: ต้องพยายามทำในด้านที่ดีครับ ถ้าพูดกันตามตรงด้านไม่ดีเนี่ยคนได้ยินมากกว่า จะพิมพ์อะไรก็ต้องคิดกันดีๆ ก่อน
SakeZa: ถ้าย้อนไปที่คำถามก่อนหน้านี้ที่บอกว่าทำไมหลายคนไม่ยอมรับ มันก็อยู่ที่จุดนี้แหละครับ เรื่องของวาจา คำพูด การให้เกียรติกันในสังคม ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเกมที่เล่นกันคนหมู่มาก การสนับสนุนให้คุณนำเสนอ หรือแสดงออกไปในทิศทางที่ดีผมว่านี่แหละที่จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้อีสปอร์ตเป็นกีฬาขึ้นมาจริงๆ และเป็นอีกอาชีพที่มั่นคงแน่นอนครับ

Q: ฝากถึงคนที่อยากเป็นแคสเตอร์

Jai Raw: สิ่งสำคัญคือการแบ่งเวลา และการทำผลงานครับ ถ้าคนจะรู้จักเราก็รู้จักจากผลงานนี่แหละครับ
SakeZa: ฝากถึงเรื่องจรรยาบรรณในการทำคอนเทนต์ ฝากถึงการเลือกเรื่องที่จะนำมาทำเป็นคอนเทนต์ หลายๆ ครั้งมันมีแง่มุมเหมือนเหรียญที่มันมีสองด้าน อยู่ที่คุณจะนำเสนอ บางคนอยากได้ยอด คุณนำเสนอในด้านลบ ด้านดาร์ค แต่คุณอย่าลืมเรากำลังสนับสนุนมัน แต่คุณไม่เลือกนำเสนอในด้านบวก เพราะคุณรู้สึกว่า เห้ย ใครๆ ก็รู้อยู่แล้ว สิ่งที่ตามมามันเป็นผลเสีย มากกว่าผลดี คุณอาจจะมียอดไลค์ ยอดกดติดตามเป็นแสน เป็นล้าน แต่คนอาจจะเกลียดคุณทั้งหมดเลยก็ได้ และมันไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรแก่สังคม ถ้าคิดจะเป็นแคสเตอร์ ก็อยากให้เลือกทำแต่คอนเทนต์ที่ดี นำเสนอสิ่งดีๆ ออกไป เมื่อไหร่ก็ตามที่เราทำอะไรบนพื้นที่เปิดไม่ว่าจะเป็น Facebook Youtube หรือช่องทางอื่นๆ เราย่อมเป็นที่จับตามองครับ

Q: ฝากถึงคนที่อยากเป็นนักกีฬาอีสปอร์ต

Jai Raw: ความรับผิดชอบเน้นๆ เลยครับ ต้องแบ่งเวลาให้ได้ ยกตัวอย่าง เราไปบอกทุกคน ว่าเราเล่นเกมเก่งมาก แต่ก็เล่นทั้งวันทั้งคืน ไม่เรียน ไม่ทำการบ้าน จะมีใครเห็นด้วย สกิลมาก็จริง แต่ถ้าไม่มีความรับผิดชอบ ผู้ใหญ่ที่ไหนก็ไม่เห็นด้วย แม้ว่าเราจะเก่งแค่ไหนก็ตาม
SakeZa: เหมือนที่ใจร้าวบอกเลยครับ อย่างแรกเลยคือระเบียบวินัย การแบ่งเวลา ถ้าน้องๆ ที่อยู่ในวัยเรียน ต้องแบ่งเวลาเรียน และเวลาซ้อมเพื่อเป็นนักกีฬาอีสปอร์ต แต่ถ้าเกิดว่าอยู่ในวัยทำกงานแล้วก็ต้องรับผิดชอบงานก่อน อย่าถึงขั้นลาออกจากงานเพื่อมาเล่นเกม อยากให้รับผิดชอบชีวิตตัวเองให้ดีที่สุดก่อน รู้หน้าที่ของตัวเอง แล้วคุณจะเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตที่ดีได้ เพราะว่าคุณรู้จักคำว่ารับผิดชอบแล้วครับ

เป็นยังไงบ้างครับการการพูดคุยกับสองหนุ่มสุดฮ็อตที่คนเล่นเกม ROV ต้องรู้จักกันแน่ๆ นี่อาจจะเป็นอีกมุมหนึ่งที่คุณไม่เคยเห็นกัน สำหรับใครที่อยากติดตามผลงานของทั้งสองคนสามารถติดตามได้ที่แฟนเพจ

• SakaZa : SakeZa เสกซ่า
• Jai Raw: JAI RAW ใจร้าว

ทาง Thailand eSport Club ก็ต้องขอบคุณทั้งสองคนมากๆ ที่มาร่วมพูดคุยเรื่องราวดีๆ ให้ได้ฟังกัน สำหรับคราวหน้า เราจะพาใครมาเจอกับพวกคุณอีก ต้องติดตามนะครับ