รีวิว Artifact

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะพาทุกคนมารู้จักกับเกมการ์ดน้องใหม่ล่าสุดจากค่าย Valve เจ้าของเกมดังอย่าง DOTA2 บอกก่อนเลยว่า ใครที่เป็นแฟนตัวยงอยู่แล้ว อาจจะรู้สึกชอบเกมไม่แพ้กัน เพราะเกม “Artifact” ที่เรากำลังจะพูดถึงอยู่นี้ เป็นการเอาหลายๆส่วน ไม่ว่าจะเป็นตัวละคร ไอเทม สกิล ของเกม DOTA2 มายัดลงในการ์ด ทำเป็นเกมกระดานออนไลน์ในแบบที่ไม่เคยได้เจอในเกมการ์ดไหนมาก่อน จะน่าสนใจขนาดไหน เรามาดูกันเลยครับ

ในปัจจุบัน ต้องบอกเลยว่า เกมการ์ดแบบดิจิตอล ที่เราเล่นกัน ไม่ว่าจะเป็นบนพีซีและสมาร์ทโฟนนั้น ที่ดังๆ และนิยมเอามาใช้แข่งขันในอีสปอร์ต มีอยู่แค่ไม่กี่เกม และ Valve เอง ก็คงเล็งเห็นในจุดนี้ แทนที่จะไปทำเกมแนวดังๆอย่าง MOBA และ Battle Royal มาแข่งกับเจ้าอื่น ขอเลือกที่จะเปิดอีกหนึ่งตลาด ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ ว่าเกม “Artifact” นี้ จะกลายมาเป็นอีกหนึ่งเกมที่มีการแข่งขันใหญ่ และเงินรางวัลสูงไม่แพ้ DOTA2 ในอนาคต

“Artifact” นั้น เป็นเกมการ์ดที่มีรูปแบบการเล่นแตกต่างจากเกมการ์ดที่เคยมีมา ด้วยการนำเอาจุดเด่นของเกม DOTA2 อย่างพวกตัวละคร สกิล และไอเทม มาอยู่ในรูปแบบของการ์ด

ถึงแม้ว่าตัวเกมจะไม่ได้แจกฟรี ซึ่งเสียเงินซื้อใน Steam ราคา 679 บาท ซึ่งราคานี้ เมื่อเข้าเกมครั้งแรก เราจะได้รับแพคการ์ดจำนวน 10 ซอง หลังจากนั้น หากต้องการเปิดแพคเพิ่ม ก็ต้องเสียเงินซื้อ ซองละ 66 บาท หรือทำเควส ต่อสู้ เป็นต้น

ใน 1 แพคนั้น จะมีการ์ดอยู่ทั้งหมด 12 ใบ และจะการันตีแรร์อย่างน้อย 1 ใบ ในการเปิดแต่ละครั้ง โดยในเกม “Artifact” นี้ จะมีการแบ่งการ์ดออกเป็นหลายรูปแบบด้วยกัน เป็นส่วนที่ผู้เล่นจะต้องทำความเข้าใจก่อน ซึ่งส่วนที่จะต้องรู้ ก็คือเรื่องสีของการ์ด เกมนี้ จะมีการ์ดอยู่ทั้งหมด 5 สีด้วยกัน คือสีแดง สีฟ้า สีเขียว สีทอง และสีดำ ส่วนระดับความหายากของการ์ดนั้น จะมีอยู่ 4 ระดับ ดังนี้

• Basic
• Common
• Uncommon
• Rare

โดยปกติแล้ว หากใครที่เคยเล่น DOTA2 มา ก็จะรู้ว่าเกมนี้ จะแบ่งฮีโร่ออกเป็น 3 สาย คือ Strength, Agility และ Intelligence ซึ่งพอเข้ามาใน Artifact แล้ว ก็เข้าใจว่าน่าจะแบ่งตามนี้ แต่ไม่ใช่ ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับการ์ด “Heroes” กันก่อน สำหรับการ์ดประเภทนี้ เป็นการ์ดที่สำคัญมากๆ เราสามารถใส่การ์ดฮีโร่ลงไปในเด็คได้สูงสุด 5 ตัว เป็นข้อบังคับ โดยการ์ดฮีโร่นั้น จะมี 4 สี คือสีฟ้า สีเขียว สีแดง และสีดำ ซึ่งสีของการ์ดฮีโร่นั้นจะเป็นตัวกำหนดการใช้การ์ดประเภทอื่นๆในการเล่นต่อไป

“การ์ดสีของฮีโร่ กำหนดการเล่นของการ์ดใบอื่นๆยังไง?”

ก็อย่างเช่น ถ้าหากบนกระดานมีการ์ดฮีโร่สีฟ้าอยู่ ก็จะใช้การ์ดอื่นๆที่เป็นการ์ดสีฟ้าได้ แต่ถ้าในมือมีการ์ดสีเขียวหลายใบ แต่บนกระดานดันไม่มีการ์ดฮีโร่สีเขียว ก็ไม่สามารถใช้การ์ดเหล่านั้นได้ และที่สำคัญ คือหากไม่มีการ์ดฮีโร่อยู่บนกระดานเลย นี่เป็นปัญหาเลย เพราะคุณจะไม่สามารถใช้การ์ดในมือได้เลยครับ

การ์ดฮีโร่จะแตกต่างจากการ์ดทั่วไปตรงที่มันมีลูกเล่นค่อนข้างเยอะ อย่างแรกเลย คือทุกใบจะมี Skill ที่อาจจะเป็น Active Skill ที่กดใช้ได้ขณะอยู่บนกระดาน หรือเป็น Passive Skill หรือสกิลติดตัว นอกจากนี้ หากคุณใส่การ์ดฮีโร่ลงเด็ค จะมีการ์ดประจำตัวติดเข้าไปในเด็คด้วยอัตโนมัติ อย่างในภาพ หากคุณใส่การ์ดฮีโร่ Skywrath Mage ลงไปในเด็ค ก็จะมีการ์ด Mystic Flare แถมไปในเด็คให้ด้วย

อีกหนึ่งความสามารถของการ์ดฮีโร่คือ สามารถส่วมใส่ไอเทมได้ ให้นึกถึง DOTA2 เลย เวลาที่คุณเข้าไปเล่น ก็จะต้องมีการออกของให้ตัวละคร เกมนี้ก็เช่นกัน แต่ว่าจะสามารถใส่ได้แค่ 3 ชิ้นเท่านั้น และแต่ละช่อง ก็ถูกกำหนดมาแล้ว ว่าจะต้องใส่ไอเทมประเภทอะไร โดยจะมี Weapons ที่เป็นอาวุธ Armor ที่เป็นเกราะ และ Accessories ที่เป็นเครื่องประดับ คุณไม่สามารถที่จะใส่ไอเทมให้ฮีโร่ เป็นการ์ดไอเทมชนิดเดียวกันได้ เช่น อยากจะใส่ Weapons 2 ชิ้น ก็ไม่สามารถทำได้ การที่จะใส่การ์ดไอเทมชิ้นใหม่เข้าไป จะถูกแทนที่ และของเก่าจะถูกถอดทิ้งทันที

การ์ดไอเทมนั้น จะเป็นสีทอง ซึ่งแตกต่างจากการ์ดทั่วไป คือถึงแม้ว่าคุณจะจัดลงเด็ค แต่ไม่สามารถจั่วขึ้นมาฟรีๆได้ จะต้องทำการซื้อ(เดี๋ยวจะอธิบายต่อ) อย่างที่บอกไปว่าจะมีประเภท Weapons ที่เป็นอาวุธ Armor ที่เป็นเกราะ และ Accessories ที่เป็นเครื่องประดับ และ Consumables ที่เป็นไอเทมใช้งานได้เลย อย่างพวก ยาเพิ่มพลังชีวิต เป็นต้น ทีนี้การใช้งานของการ์ดเหล่านี้(ไม่รวม Consumables) ก็คือ ให้เราลากการ์ดไปใส่ที่การ์ดฮีโร่ เพื่อทำการติดตั้ง อย่างเช่นการ์ดบางใบที่เพิ่มพลังโจมตี +2 เมื่อใส่ให้การ์ดฮีโร่แล้ว พลังโจมตีของการ์ดฮีโร่ใบนั้น ก็จะเพิ่มขึ้นอีก 2 นั่นเอง ต่อมา ก็คือการ์ดประเภท Consumables บางครั้งก็สามารถใช้กับการ์ดอื่นนอกเหนือจากฮีโร่ นั่นก็คือครีปได้ อย่างเช่นยาเพิ่มพลังชีวิต เป็นต้นครับ

ต่อมาก็คือการ์ด “Spell” คือการ์ดที่สามารถแสดงผลทันทีเมื่อใช้งาน มีทั้งรูปแบบบัฟ ดีบัฟ และโจมตี เงื่อนไขการใช้งานการ์ดเหล่านี้ ก็คือจะต้องมีการ์ดฮีโร่สีนั้นๆอยู่บนกระดาน นอกจากใช้งานในส่วนที่กล่าวมาแล้ว การ์ดบางใบ ยังมีคุณสมบัติในการเรียกครีปเพิ่มเติมขึ้นมาบนกระดานอีกด้วย แต่การ์ดประเภทนี้ค่อนข้างที่จะใช้มานามาก เพราะฉะนั้น จะใช้แต่ละทีก็ต้องวางแผนให้ดีๆด้วยนะ

อีกหนึ่งการ์ดที่มีรูปแบบการใช้งานคล้ายการ์ด “Spell” ก็คือการ์ด “Improvement” เป็นการ์ดที่เสริมความสามารถให้แก่ป้อมของเรา มักจะแสดงผลเมื่อเริ่มเทิร์น หรือเงื่อนไขอื่นๆ เช่น เมื่อฮีโร่บนกระดานตาย โดยการ์ดเหล่านี้ จะไม่ค่อยจะแสดงผลทันทีเหมือนการ์ spell แต่จะแสดงผลไปอีกนาน จนกว่าจะจบเกม หรือถูกทำลายด้วยการ์ดที่มีความสามารถในการทำลายการ์ดประเภทนี้ หลังจากเปิดใช้การ์ด จะมีสัญลักษณ์วงกลมขึ้นที่ด้านข้างของป้อมที่เราใช้ ไม่ด้านซ้าย ก็ด้านขวา ซึ่งเงื่อนไขก็เหมือนการ์ดอื่นๆ คือต้องมีการ์ดฮีโร่สีนั้นบนกระดาน 

ปิดท้ายกันที่การ์ด “Creeps” เป็นการ์ดที่เราสามารถนำขึ้นกระดานเพื่อใช้ต่อสู้ได้ลักษณะคล้ายการ์ดฮีโร่ แต่ไม่สามารถส่วมใส่การ์ดไอเทมประเภท Weapons, Armor และ Accessories ได้ ยกเว้นการ์ด ไอเทมประเภท Consumables บางใบ ที่สามารถแสดงผลกับการ์ดเหล่านี้ได้ การ์ดครีป บางใบ มีค่าพลังป้องกัน โจมตี และพลังชีวิตที่สูง บางใบไม่โดดเด่นในเรื่องป้องกัน หรือ โจมตี แต่มีความสามารถอื่นๆ เช่นเพิ่มพลังโจมตีให้แก่ฮีโร่และครีปด้วยกันที่อยู่บนกระดาน เงื่อนไขการเรียกใช้ก็เหมือนการ์ดอื่นๆ ก็คือจะต้องมีฮีโร่สีนั้นๆอยู่บนกระดานครับ

ในการจัดเด็คนั้น จะจำกัดในเรื่องของการ์ดฮีโร่ ที่จะต้องใส่มาจำนวน 5 ใบ ก็ขนาดเล่น DOTA2 ก็ยังใช้ฮีโร่แค่ 5 ตัวเลยถูกไหมละครับ(555) ส่วนการ์ดอื่นๆจะใส่มากี่ใบก็ได้ แต่ทางที่ดีก็ควรจะอยู่ที่ราวๆ 40 ใบ ถ้าจัดมา 60-70 ใบ ก็เกรงว่าจะสุ่มหาการ์ดที่ต้องการได้ยากในเวลาสำคัญๆ ดังนั้น เวลาจะจัดเด็ค ก็จะต้องเฃลือกการ์ดที่เป็นประโยชน์มากที่สุด และตรงกับสีของฮีโร่ที่เราใช้มากที่สุดด้วยนะครับ

• 

• 

• 

• 

ก่อนที่จะไปดูในส่วนของเกมเพลย์ เรามาดูโหมดต่างๆของเกมนี้กันก่อน ซึ่งถึงแม้ว่าจะพึ่งเปิดได้ไม่นาน แต่มีโหมดการเล่นเยอะมากๆ มีทั้งเล่นกับเพื่อน จัดทัวร์ เล่นกับบอท รวมๆแล้วกว่า 10 โหมดด้วยกัน ใครถนัดแบบไหน ฝีมือการเล่นแค่ไหน ก็ลองเลือกโหมดเล่นให้เข้ากันดูนะครับ

“กระดานก็ตั้งอยู่ตรงหน้า การ์ดในมือก็พร้อมแล้ว เรามาเริ่มเล่นกันเถอะ”

เมื่อเรามีการ์ดและจัดเด็คเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าไปต่อสู้กันเลยดีกว่า อย่างที่บอก ว่าเกมนี้ก็เหมือนการจำลอง DOTA2 มา ดังนั้น เมื่อมีฮีโร่ฝั่งละ 5 ตัวแล้ว แผนที่ก็ต้องมี 3 เลน เป็นการ์ดเกม ก็ต้องมี 3 กระดาน แทนเลนแต่ละเลนนั่นเอง ซึ่งเราจะต้องเล่นทีละกระดานจากซ้ายไปขวา การแพ้ชนะคือ หากป้อมฝ่ายใดถูกทำลายไป 2 ป้อมก่อน ก็จะแพ้ไปในทันที

การใช้การ์ดนั้น นอกจากจะต้องมาดูว่ามีการ์ดฮีโร่สีนั้นๆ วางอยู่บนกระดานหรือไม่ จะต้องมาดูด้วย ว่ามานาเพียงพอต่อการใช้งานหรือเปล่า ให้สังเกตที่ป้อมตรงกลาง ฝั่งซ้ายจะเป็นการโชว์ประมาณมานาที่มีอยู่ ซึ่งจะเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่จบเทิร์น ส่วนฝั่งขวา เป็นพลังชีวิตของป้อมนั้น ในครั้งแรก จะมีอยู่ 40 แต่หากถูกทำลาย จะเปลี่ยนเป็นป้อมใน ที่มีพลังชีวิตสูงถึง 80 นั่นเอง ดังนั้น การใช้การ์ดได้ จะต้องมีมานาเพียงพอ และฮีโร่ของสีการ์ดนั้น อยู่บนกระดานด้วยนั่นเอง ซึ่งตัวเลขที่อยู่มุมบนซ้าย เป็นส่วนที่เอาไว้บอกว่าการ์ดใบนั้น ใช้มานาเท่าไหร่ อีกส่วนที่อยากให้สังเกต คือเงินที่อยู่ฝั่งขวามือด้านล่าง ที่ได้จากการฆ่าครีปและฮีโร่ฝั่งตรงข้าม เรามาดูกันครับ ว่าเอาไว้ทำอะไร 

ทุกครั้งที่จบเทิร์น ก่อนจะเริ่มเทิร์นใหม่ จะมี Shop ขึ้นมา หากเรามีเงิน ก็สามารถซื้อการ์ดเหล่านี้ได้ การ์ดที่ปรากฎในหน้า Shop นี้ ก็คือการ์ดไอเทมที่เราเตรียมมา และนอกเหนือจากนั้นก็จะเป็นพวก Consumables ยาเพิ่มพลังชีวิต ขวดเล็กใหญ่ เพื่อนำไปใช้ในการเล่นเทิร์นต่อๆไปครับ

การ์ดไอเทมประเภท Consumables รวมไปถึงการ์ดไอเทมอื่นๆ ที่เป็นขอบทอง และเราใช้เงินในการซื้อมาทั้งหมดนั้น สามารถใช้งานได้เลย โดยไม่ต้องใช้มานาเหมือนการ์ดประเภทอื่นๆ เรียกง่ายๆว่า ขอแค่มีเงินซื้อการ์ด ก็ใช้ได้แล้วละครับ

หลายคนคงสงสัย ว่าถ้าการ์ดฮีโร่ถูกทำลาย แล้วจะหายไปเลยไหม แล้วต่อไปจะเล่นยังไง ให้ลองนึกกลับไปที่เกม DOTA2 นะครับ คือเวลาที่ฮีโร่ที่เราเล่นตาย สักพักก็จะกลับไปเกิดบ่อ เกมนี้ก็เช่นกันครับ เมื่อการ์ดฮีโร่ถูกทำลาย ก็จะสามารถนำการ์ดนั้นมาใช้ได้ใหม่ เมื่อถึงเทิร์นที่กำหนด และเราสามารถเลือกว่าจะให้ไปลงเลนไหน ก่อนเริ่มเทิร์นถัดไป  

แต่ไม่ใช่แค่การ์ดฮีโร่เท่านั้น เพราะเมื่อเริ่มเทิร์นจะมีการ์ดครีปใส่เข้ามาในทุกเทิร์นด้วยเช่นกัน เป็นครีปพื้นฐาน ที่เราไม่ได้ใส่มาในเด็ค แต่ทุกคนจะได้รับอยู่แล้ว ก็คล้ายๆเวลาเราเล่น DOTA2 แล้วมีครีปวิ่งออกมาในทุกๆเวลาที่กำหนดนั่นละ ส่วนการ์ดที่เราจัดเข้าเด็ค ก็จะจั่วให้เราทุก 2 ใบ เมื่อเริ่มเทิร์นใหม่ทุกครั้งครับ

“เกมนี้อาจจะไม่ได้มีอิสระในการใช้การ์ดอะไรมากมายนัก”

นอกจากจะต้องมานั่งดูว่าการ์ดฮีโร่ กับการ์ดที่อยู่ในมือสีเดียวกันไหม การ์ดฮีโร่จะถูกทำลาย ก่อนที่จะใช้การ์ดไหม อีกสิ่งที่เราจะต้องดูก็คือเส้นทางในการใช้การ์ด ที่จะถูกกำหนดไว้ว่าจะโจมตีไปในทิศทางใด โจมตีไปตรงๆ โจมตีไปทางซ้าย โจมตีไปทางขวา แต่ก็ไม่ใช่ว่า เราจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเส้นทางการโจมตีได้นะ มันก็จะมีฮีโร่บางตัว หรือการ์ดบางใบ ที่มีความสามารถในการโจมตีรอบทิศทาง เปลี่ยนทิศทางการโจมตี หรือเปลี่ยนให้ศัตรูมาโจมตีการ์ดที่เราอยากให้โจมตีเป็นต้น ซึ่งการ์ดบอกทิศทางนี้จะโชว์แค่ตอนเริ่มเทิร์นเท่านั้น หลังจากนั้น เราต้องมาสังเกตที่ลูกศรแหลมๆ สีเงิน ที่อยู่หัวการ์ด ว่าชี้ไปทางไหน 

เกมนี้นับเทิร์นยังไงกันแน่ๆ และวางการ์ดกันยังไง? นี่คงเป็นเรื่องที่หลายคนสงสัย เกมนี้จะนับ 1 เทิร์น เมื่อคุณเล่นการ์ดจากกระดานฝั่งซ้าย เป็นเลนที่ 1 กระดานกลาง เป็นเลนที่ 2 และกระดานขวามือ เป็นเลนที่ 3 เมื่อครบทั้ง 3 แล้ว ก็จะจบ 1 เทิร์น ส่วนการวางการ์ด ก็สลับกันวางกับคู่ต่อสู้ ทีละใบ จนไม่สามารถใช้การ์ดได้ทั้งคู่ หรือกดที่จะไม่ใช้การ์ดแล้ว ให้คุณสังเกตปุ่มวงกลมฝั่งขวา การกดรูปดาบไขว้ การ์ดทั้ง 2 ฝั่ง ก็จะชนกันทันที เป็นอันจบการเล่นในกระดานหรือเลนนั้น 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

• 

โดยรวมนี่ถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่เชื่อว่าในอนาคตน่าจะเป็นเกมการ์ดที่เราจะได้เห็นบ่อยในการแข่งขันอีสปอร์ต แต่ในแง่ของการเล่น แรกๆอาจจะแอบงงกันไม่น้อย แต่ถ้าเล่นเป็นแล้ว ก็จะติดได้ไม่ยากเลยทีเดียว โดยเฉพาะใครที่เป็นแฟน DOTA2 ส่วนข้อเสียก็คงจะไม่มีอะไรมาก นอกจากช่วงแรกๆจะหาโอกาสชนะยากมาก และการเล่นแต่ละเกม ถ้าจริงจังหน่อย ก็ใช้เวลานานพอสมควรอยู่เหมือนกัน สุดท้ายคือเรื่องดีไซน์และกราฟฟิค ความอลังการต่างๆ ของสกิลจากการ์ด หลายสกิลก็มีความคล้ายกับของ DOTA2 จริงๆ แต่ตัวการ์ดรู้สึกว่าออกแบบมาธรรมดาไปหน่อย อาจจะเน้นให้ทำออกมาเป็นการ์ดจริงๆได้ในอนาคตไหม อันนี้ไม่แน่ใจ แต่โดยรวมก็ถือว่าทำออกมาได้ดี สมกับที่หลายๆคนรอคอยครับ

ชื่อ : Artifact

แพลตฟอร์ม : เปิดในระบบ PC และ MacOS

ประเภท :  Card Game

ราคา : 679 บาท

STEAM